เดินทางถึง สนามบินภูเก็ต
รถรอรับท่านสนามบิน

แวะชมวัดพระทอง หรือ วัดพระผุด เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงวัดหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์อันเป็นที่มาของชื่อวัดพระทองหรือวัดพระผุด ตามตำนานเล่าว่าเมื่อสมัยพม่ายกทัพมาตีเมืองถลาง พยายามที่จะขุดองค์พระผุดขึ้นมาเพื่อนำกลับไปยังพม่าด้วย แต่ไม่ว่าจะพยายามขุดลงไปเมื่อไหร่ก็จะมีฝูงแตนออกมาไล่ต่อยจนต้องเลิกล้มไปในที่สุด 

จากนั้นนำท่านแวะเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต ชมตึกเก่าทรงโบราณอาคารสไตล์ ชิโนโปรตุกีสที่ผสมผสานเอาความเป็นศิลปะตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกันอย่าง กลมกลืน จนเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเมืองภูเก็ต ซึ่งเมืองภูเก็ตนับว่ามีประวัติศาสตร์และความรุ่งเรืองอันยาวนานอีกเมืองหนึ่งของไทยโดยหนึ่งในรอยอดีต อันรุ่งเรืองของภูเก็ตตึกเก่าแบบชิโน-โปรตุกีสถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2446 เนื่องจากการทำเหมือง แร่ที่เติบโตทำให้ชาวจีนและชาวตะวันตกต่างหลั่งไหลเข้ามาที่เมืองภูเก็ตเป็นจำนวนมากเมื่อเข้าสู่เขตเทศบาล เมือง ภูเก็ตสิ่งแรกที่ผู้ไปเยือนจะรู้สึกสะดุดตาก็คือตึกเก่าที่ตั้งตระหง่านอยู่ในย่านการค้าเก่าเเก่ของเมืองเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็น

จากนั้นนำท่านแวะศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย เป็นศาลเจ้าที่สำคัญและเก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต มีเอกลักษณ์ในการสร้างที่สวยงาม และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เคารพบูชามากมายตามความเชื่อ เป็นศาลเจ้าที่สวยงามมากแห่งหนึ่งใสจังหวัดภูเก็ต และตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต

จากนั้นนำท่านรับประทานอาหารค่ำแบบท้องถิ่น

เช็คอิน เข้าโรงแรมที่พัก
พักผ่อนตามอัธยาศัย 

 รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
รถรับท่านที่โรงแรม แวะเที่ยววัดฉลอง หรือชื่อที่เรียกเป็นทางการ ก็คือ วัดไชยธาราม เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองภูเก็ต ถ้าใครมาภูเก็ตจะต้องมาแวะนมัสการ หลวงพ่อแช่ม แห่งวัดฉลอง เพื่อเป็นสิริมงคลแต่ตัวเอง อีกทั้งที่วัดฉลองแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศ เป็นที่ประดิษฐสถานของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากศรีลังกา วัดฉลองแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในภูเก็ตอีกแห่งที่ใครๆที่มาเที่ยวภูเก็ตจะต้องมาวัดแห่งนี้ 

หลังจากนั้นนำท่าน ชมวัดหลวงปู่สุภา ซึ่งในปี 2544 หลวงปู่สุภา ได้สร้างวัดใหม่อีกแห่งหนึ่ง  ตั้งอยู่ที่  ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต บนเนื้อที่ 38 ไร่ โดยได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ว่า   “วัดสิริสีลสุภาราม” และหลวงปู่สุภายอมรับเป็นเจ้าอาวาสวัดแรกในชีวิต
วัดแห่งนี้เป็นวัดลำดับที่ 39 ที่หลวงปู่สุภาได้สร้างขึ้น และถือเป็นวัดสุดท้ายที่หลวงปู่สร้างขึ้นก่อนที่หลวงปู่จะละสังขารซึ่งท่านได้อยู่ที่วัดนี้มาโดยตลอด

รับประทานอาหารเที่ยงแบบท้องถิ่นภูเก็ต

และสุดท้าย ชมความสวยงามตระการตาของ พระใหญ่ ณ พระพุทธมิ่งมงคลเอก นาคาคีรี พร้อมวิวเกาะภูเก็ต 360 องศา ที่สวยงามมาก เนื่องจากมีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคที่ดินบนภูเขาสูง มองเห็นทัศนียภาพทั่วเกาะภูเก็ตให้แก่วัดกิตติสังฆาราม มีจำนวนเนื้อที่เพียงพอ เหมาะสมอันควรแก่การที่จะประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ให้มีความสง่างามเป็นอย่างยิ่ง วัดกิตติสังฆาราม คณะกรรมการวัด ประชาชนและพุทธศาสนิกชน มีความเห็นพ้องต้องกันว่า ควรจะได้จัดทำโครงการสร้าง “พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี” ณ สถานที่แห่งนี้ไว้เคารพบูชาแทนพระพุทธองค์ และจะได้ปรับปรุงพื้นที่บริเวณสถานที่ประดิษฐาน ให้เป็นพุทธอุทยาน ให้มีความร่มรื่น สวยงาม เพื่อจะได้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ 

จากนั้นนำท่านเที่ยว แหลมพรหมเทพ แลนด์มาร์กของจังหวัดภูเก็ตที่ใครไม่มานั้นถือว่ามาไม่ถึงภูเก็ต เพราะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่เขาว่ากันว่าสวยที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว แหลมพรหมเทพมีลักษณะเป็นแหลมโค้งทอดตัวลงสู่ทะเล สามารถเดินลงไปที่ปลายแหลมได้  เมื่อไปถึงตรงปลายแหลมจะสามารถมองเห็นวิวด้านซ้ายเป็นหาดในยะ ส่วนด้านขวาก็จะเป็นชายหาดในหานสวยงามมากทีเดียว นอกจากตัวแหลมแล้ว เพื่อนๆ ยังสามารถไปดูประภาคารกาญจนาภิเษก ซึ่งภายในจะมีนิทรรศการเกี่ยวกับการสร้างประภาคารอยู่ด้วย

รับประทานอาหารค่ำ
ส่งท่านกลับโรงแรมที่พัก 

 รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
รถรับท่านที่โรงแรม ส่งสนามบินภูเก็ต 
เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ